วันที่ ๑๒  กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙  กลุ่มภารกิจการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต ๑ เชียงใหม่ จัดประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์ระบบดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่เขต ๑ เชียงใหม่ ปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ณ ห้องประชุมโรงแรมสวนพฤกษศาสตร์ทวีชล  อ.ดอยสะเก็ด  จ.เชียงใหม่ โดยนายเอนก  มหาเกียรติคุณ นายกเทศมนตรีตำบลริมปิง ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลริมปิง ได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเข้าร่วมประชุม

         โดยพิธีเปิดการประชุมและบรรยายพิเศษเรื่อง “ระบบดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงตามนโยบายรัฐบาล” โดย นายแพทย์ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งได้กล่าวว่าจากการที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยในปีงบประมาณ ๒๕๕๙ มีนโยบายมุ่งเน้นในการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงทั้งกลุ่มติดบ้านและกลุ่มติดเตียง โดยสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากงบเหมาจ่ายรายหัวปกติ จำนวน ๖๐๐ ล้านบาท ให้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อบริหารจัดการดูแลผู้สูงอายุกลุ่มที่มีภาวะพึ่งพิง จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ ราย โดยให้ดำเนินงานครอบคลุมทุกจังหวัด  ทุกอำเภอทั่วประเทศ อำเภอละ ๑ ตำบล กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายกรมอนามัยเป็นหน่วยงานหลักดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่าย จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาระบบดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่ตำบล Long Term Care ปี ๒๕๕๙ ขึ้นเพื่อดูแลผู้สูงอายุ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป

  การดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจแนวทางหลักเกณฑ์ระบบดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและท้องถิ่นกลุ่มเป้าหมายในเขต ๑ เชียงใหม่ จำนวน ๑๓๖ แห่งแสดงความจำนงเข้าร่วมดำเนินงานระบบดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในปี ๒๕๕๙ ร้อยละ ๑๐๐  กลุ่มเป้าหมายของการจัดประชุมชี้แจงหลักเกณฑ์ระบบดูแลระยะยาว    ด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่เขต ๑ เชียงใหม่ ปีงบประมาณ ๒๕๕๙  ในครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหาร หรือเจ้าหน้าที่ รพท. รพช. รพศ. สสอ. , ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่จาก อปท., เจ้าหน้าที่ สสจ./ศูนย์อนามัย , ผู้ตรวจราชการเขตหรือผู้แทน , ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ สปสช.ส่วนกลาง และเขต ๑ เชียงใหม่ รวมทั้งหมด ๕๐๐ คน